วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
อาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตรัง
หมูย่างเมืองตรัง
เทศกาล "หมูย่างเมืองตรัง" ย้อนตำนานอาหารระดับฮ่องเต้
หมูย่างสำหรับชาวตรังนั้นไม่ใช่เป็นอาหารที่ใช้เพื่อการบริโภคเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่มีความผูกพันกับชาวตรังตลอดช่วงของชีวิต เพราะชาวตรังใช้หมูย่างในเหตุการณ์สำคัญเกือบทุกโอกาส รวมทั้งความเชื่อที่ว่า หากกินหมูย่างตอนเช้าจะทำให้การงานในวันนั้นสำเร็จลุล่วงลงอย่างง่ายดาย กลายเป็นเรื่องหมู...หมู... หากย้อนตำนานต้นกำเนิดของหมูย่างนั้นเกิดขึ้นในประเทศจีน ประมาณ 1,000 ปีมาแล้วใสมัยราชวงศ์ถัง การค้นพบวิธีการย่างหมูนั้นเป็นการบังเอิญ คือในขณะที่พ่อครัวในพระราชวังกำลังปรุงอาหาร ได้ทำหมูชิ้นหนึ่งตกลงไปในเตาถ่านจนเนื้อสุกและหนังไหม้ พ่อครัวได้ลองหยิบมาชิมจึงรู้สึกว่าหมูชิันนั้นมีรสชาติหอมกรอบอร่อยกว่าเดิมมาก จึงทำให้เขาเริ่มมีความคิดว่า การนำหมูมาย่างเป็นอาหาจอร่อยกว่าการนำไปใช้ทำอาหารอย่างอื่น ดังนั้น พ่อครัวจึงได้ทดลองนำหมูมาย่างแล้วนำขึ้นถวายฮ่องปรากฏว่าฮ่องเต้โปรดมากเนื่องจากหมูพอย่างสุกพอเหมาะหนังจะมีสีเหลืองดุจทองคำสุกอร่าม ฮ่องเต้จึงตั้งชื่อหมูย่างนี้ว่า "หมูทอง" ทำให้ชาวจีนใช้ชื่อนี้เรียกมาจนถึงปัจจุบัน
หมูย่างเมืองตรังจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรังไปในที่สุดจากอาหารพื้นเมืองที่นิยมรับประทานกันในวงจำกัด หมูย่างเมืองตรังได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดตรังด้วยการจัดงานเทศกาลหมูย่างเมืองตรังขึ้นตั้งแต่ปี 2533 ต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับการได้โหนกระแสนโยบายการท่องเที่ยวของรัฐบาล จึงกลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ กลายเป็นขอแปลก ของโปรด ของประจำบ้านประจำเมืองไปในที่สุด นายธีรวัฒน์ หวังศิริเลิศ รองประธานหอการค้าจังหวัตรัง ในฐานะประธานจัดงานเทศกาลหมูย่างเมืองตรัง ครั้งที่ 17 กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดตรังได้ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดเทศกาลหมูย่างเมืองตรังมาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ถือเป็นการจัดเป็นปีที่ 17 โดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัดตรังและผู้ประกอบการหมูย่างจังหวัดตรังกว่า 100 ราย จัดงานขึ้นในวันที่ 3 กันยายนนี้ บริเวณสนามหน้าโรงแรมธรรมรินทร์ ธนา มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมแลประชาสัมพันธ์หมูย่างอันเป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดตรังให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการสร้างเสริมรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการหมูย่างและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ทางหนึ่งอีกด้วย"ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การจัดจำหน่ายหมูย่างราคาถูกกว่าท้องตลาด สนุกสนานกับการแข่งขันแรลลี่หมู การแข่งขันวิ่งหมู การประกวดการแข่งขันประกอบอาหารจากหมูย่าง การประกวดทีมแดนเซอร์เพลงไทยลูกทุ่ง ขบวนพาเหรดแฟนซีที่ยิ่งใหญ่ตระการตาของนักเรียน นักศึกษา และองค์กรต่างๆ กว่า 2,000 คน การแสดงบนเวที และการจำหน่ายสินค้า OTOP อันเลื่องชื่อของจังหวัดตรัง ซึ่งทุกกิจกรรมมั่นใจว่าจะสร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก" นายธีรวัฒน์กล่าว
ปัจจุบันหมูย่างไม่ได้เป็นเพียงอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดตรังเท่านั้น แต่หมูย่างได้กลายเป็นหนึ่งในประเพณีวิถีตรังที่สามารถนำเสนอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับรู้ไปทั่วแล้ว
อาหารมื้อเช้าแบบฉบับของชาวตรังจร้า

วิถีชีวิตของชาวตรังวันนี้ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากอดีตเลย ที่ในอดีตชาวสวนยาง ต้องเริ่มกิจการธุรกิจสวนยางกันตั้งแต่หลังเที่ยงคืน เพื่อกรีดยาง จวบจนเช้ามืด พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยเชื้อสายจีน หลังจากเสร็จภารกิจค้าขายกันที่ตลาดสดยามเช้าแล้ว ก็เป็นเวลาที่ทุกคนต่างมีความสุขในการกินอาหารมื้อเช้าที่แสนพิเศษอลังการ คือมีอาหารจานเล็กๆ สารพัดเมนูวางเต็มโต๊ะประสบการณ์ครั้งแรกของเรา ตกใจมากเมื่อพนักงานวางถ้วยติมซำมากมายก่ายกองบนโต๊ะให้เรา และนี่ล่ะ คืออาหารเช้าแบบฉบับคนตรังจริงๆ ติ่มซำ หมูย่าง พร้อมจิบชากาแฟ แล้วก็เร่ิมต้นเสวนา คุยกันไป พลางนั่งฟังข่าวสารจากวิทยุถึงราคาความเคลื่อนไหวของราคายาง จากการเริ่มคุยเรื่องใกล้ตัวในชุมชน ก็จะเป็นเรื่องสังคม เศรษฐกิจ ข่าวสารเหตุการณ์ประจำวัน แต่หัวข้อพูดคุยและการวิพากษ์วิจารณ์ที่คุยกันได้อย่างสนุกถกกันอย่างออกรสชาติมากที่สุด ก็คงไม้พ้นเรื่องการเมือง ซึ่งกลายเป็นที่มาของ "สภากาแฟ" นี่เอง วัฒนธรรมอาหารมื้อเช้าของชาวตรัง เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่มกาแฟโบราณ ที่เรียกว่า "โกปี้" คือกาแฟใส่นมข้น โกปี้ดำไม่ใส่นม เรียกว่า "โกปี้อ้อ" ถ้าเป็นชาซีลอนผสมกาแฟอย่างละครึ่งใส่นมข้น เรียกว่า "โกปี้ช้ำ" กาแฟเป็นเครื่องดื่มของชาวตรังทุกเพศทุกวัย ดื่มได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้ามืด สาย เที่ยง บ่าย เย็น หัวค่ำ ยันถึงดึกดื่น ก็ยังเห็นคนนั่งเต็มร้านกาแฟ เมนูหลักที่ทานคู่กับกาแฟ คือหมูย่าง เมืองตรัง
ขนมเค้กเมืองตรัง
เค้กเมืองตรัง ของฝากขึ้นชื่อของ จ.ตรัง ถือกําเนิดหรือผลิตขึ้นครั้งแรกที่ อ.ปะเหลียง จ.ตรัง โดยชาวจีนไหหลำ
เค้กตรังยุคแรกที่เป็นที่รู้จักกันคือ “เค้กขุกมิ่ง” ได้ชื่อจาก ขุกมิ่ง แซ่เฮง เจ้าตำรับขนมเค้กเมืองตรัง ที่อพยพเดินทางมาเมืองไทยโดยเรือ และทำงานที่ จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2472
ขนมเค้กเมืองตรัง เป็นขนมที่พัฒนามาจากขนมไข่ของคนจีน คนตรังยุคแรก เรียกว่า “ขนมไข่ไก่” ใช้ในพิธีแต่งงาน นิยมใส่ในขันหมาก แต่คิดรูปแบบใหม่ แทนที่จะทำเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ เหมือนขนมไข่ทั่วไป ก็คิดทำเป็นรูปแบบเค้กก้อนกลมใหญ่ ใส่กล่อง มีเครื่องแต่งหน้าและปรุงแต่งกลิ่นรสต่างๆ เป็นของว่างกินคู่กับกาแฟ ชาวจีนไหหลำเรียกด้วยสำเนียงตนเองว่า “ขนมเก็ก” ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นแบบขนมไข่ของคนจีน
เมืองตรังรวมตัวกันพัฒนาขนมเค้กในนาม “ชมรมขนมเค้กจังหวัดตรัง” โดยมี นายยี่เค้ง วงศ์สัมพันธ์ เจ้าของร้านเค้กรสเลิศ เป็นประธานชมรม มีการเผยแพร่และจัดสอนแก่ผู้ผลิตรายย่อยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เค้กตรังมีรสชาติ คุณภาพ และมาตรฐานเดียวกัน
ปัจจุบัน จ.ตรัง มีการทำขนมเค้กเป็นกิจการในครัวเรือนกันอย่างแพร่หลาย และพัฒนาจนมีรสต่างๆ มากมาย เช่น รสกาแฟ ใบเตย เค้กสามรส เค้กสี่รส เค้กนมสด เค้กมะพร้าว เค้กเผือก เค้กส้ม เค้กชาเขียว เค้กขนุน เค้กลิ้นจี่ เค้กเนย เค้กพุทรา เค้กผลไม้ เค้กงาดำ เค้กอบกรอบ ฯลฯ
จะมีเทศกาลขนมเค้กจังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 6-7 สิงหาคม บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 อ.เมือง จ.ตรัง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)